วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552

“กิ๊ก”

กิ๊กไม่ใช่ชู้ ถ้าแฟนรู้ต้องเลิก  อาจเขียนเป็นหลักทางคณิตศาสตร์ได้ว่า  กิ๊ก เป็นสับเซ็ตของชู้       ยูเนียนกับการมีเพศสัมพันธ์เป็นคำจำกัดความหนึ่งของคำว่า กิ๊ก โดยกลุ่มนักวิจัยเล็ก ๆ ของเหล่านิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กำลังศึกษาวิชา การศึกษากับสังคมสรุปไว้   ซึ่งเป็นการเรียนในลักษณะที่เรียกว่า  การเรียนแบบวิจัย  ไม่ใช่การเรียนเพียงแต่ในตำราและในห้องเรียนเท่านั้น ได้มีการให้ผู้เรียนไปศึกษาจากปรากฎการณ์จริงในสังคม และใช้วิธีการวิจัยเบื้องต้นไปศึกษาค้นคว้าเรื่องที่ตนเองสนใจ อันเป็นแนวทางหนึ่งของการปฏิรูปการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยจัดให้มีการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพื่อการคิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ภายใต้การควบคุมกำกับดูแลและชี้แนะของอาจารย์ผู้สอนอย่างใกล้ชิด
ความสนใจของนิสิตกลุ่มนี้เริ่มจากคำถามหรือข้อสงสัยว่า พฤติกรรมวัยรุ่นไทยในปัจจุบันเกี่ยวกับเพศตรงข้ามเป็นอย่างไร ? (คำถามในการวิจัย)  เพราะเคยเห็นเพื่อนไปเที่ยว ดูหนัง กินข้าว ช่วยถือกระเป๋า เดินจูงมือกัน  แต่บอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกัน  เป็น  กิ๊ก จากข้อสงสัยนี้นำไปสู่การตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบในเรื่องนี้ (แบบสัมภาษณ์) ได้แก่
1. คำจำกัดความของคำว่า กิ๊กคืออะไร
2. ทำไมถึงต้องมี กิ๊ก
3. ชายหรือหญิงมี กิ๊กมากกว่ากัน
4. ข้อดีของการมี กิ๊กคืออะไร
5. ปัญหาของ กิ๊กมีอะไรบ้าง
6. จุดจบของ กิ๊กเป็นอย่างไร
นิสิตกลุ่มดังกล่าวจึงได้ไปทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้คนที่อยู่ในวัย กิ๊กได้แก่ นิสิตนักศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน โดยใช้เทคนิคการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research)  ด้วยการลงภาคสนามและทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก (indepth interview) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key informant) เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ดีและมีความหมายลึกซึ้งเกี่ยวกับเรื่องราวของคำว่า กิ๊กนอกจากนั้นยังได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ ประกอบด้วย ได้แก่ เอกสาร หนังสือและเว็บไซต์ จนสร้างข้อสรุปพฤติกรรมวัยรุ่นไทยเกี่ยวกับคำว่า กิ๊กได้ดังนี้
1. คำจำกัดความของ กิ๊ก  คือ  ภาวะที่คน 2 คนมีความสนิทสนมกัน  รู้สึกดี ๆ ต่อกัน  ผูกพันและมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งพิเศษมากกว่าเพื่อน แต่ยังไม่ใช่แฟน อาจขยับขึ้นมาเป็นแฟนก็ได้หรือถ้าความสัมพันธ์ไปไม่รอดก็กลับกลายเป็นเพื่อนกันได้  ไม่มีข้อผูกมัดกัน  เป็นอิสระต่อกัน  ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิม      นอกจากนั้นยังห้ามหึงหวงจนออกนอกหน้า  อาจมีเพศสัมพันธ์กันได้  ซึ่งเดิมนั้นเรียกว่า ชู้ นั่นเอง  แต่    ดูเหมือนเป็นคำที่แรงเกินไป จึงใช้คำว่า กิ๊กสำหรับข้อพิจารณาของการเป็นกิ๊ก  คือ  รูปร่างหน้าตา  นิสัย  ฐานะ การดูแลเอาใจใส่ คำพูด ความคิด ดังนั้นผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาดีย่อมได้เปรียบและได้รับการคัดเลือกก่อน  โดย กิ๊กจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
    1. กิ๊กแบบยังไม่มีแฟน คือ คนที่อาจเป็นแฟนเราในอนาคต หรือคนที่สนิทสนมกันถึงขั้นจะเป็นแฟนแต่มีอะไรบางอย่างที่ยังไม่ใช่หรือไม่แน่ใจ
    2. กิ๊กแบบที่มีแฟนอยู่แล้ว คือ มีแฟนอยู่แล้วแต่มีคนอื่นเพิ่มอีก ซึ่งกิ๊กจะต้องรู้ฐานะของตนเองและเจียมตัวว่าอยู่ตรงไหน ห้ามล้ำเส้น ถ้าแฟนรับได้ก็โอเค แต่ถ้ารับไม่ได้ก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่ากระโตก กระตากให้แฟนเขาจับได้เพราะจะซวยทั้งคู่
2. เหตุผลของการมี กิ๊ก คือ การประทับใจในตัวใครบางคนที่บังเอิญเข้ามาถูกเวลาที่เราต้องการใครสักคนหนึ่งในยามที่เราเหงา  ไม่มีใคร  หมดหวัง  ท้อแท้หมดกำลังใจ  เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต  หรือบางครั้งมีแฟนนาน ๆ ไปเกิดความเบื่อหน่าย ทะเลาะกันบ่อย พอมีกิ๊กทำให้มีความรู้สึกดี วูบวาบซ่าบซ่า หรืออาจช่วยแชร์ค่าอาหาร ดูหนัง ไปเที่ยว ซื้อเสื้อผ้าและอาจได้เงินใช้ฟรี ๆ
3. ชายหรือหญิงมี กิ๊กมากกว่ากัน ชายและหญิงมีกิ๊กได้เหมือนกันและพอ ๆ กัน เพราะผู้ชายเจ้าชู้เป็นปกตินิสัยและต้องการการเอาอกเอาใจดูแลอย่างใกล้ชิดจากแฟน ถ้าไม่ได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็วก็จะหาทางถ่ายเทไปยังผู้อื่น  ส่วนผู้หญิงก็มักจะเป็นฝ่ายไม่ค่อยปฏิเสธใคร มักจะรักพี่เสียดายน้อง ไม่กล้าตัดสินใจเลือกใครสักคนหนึ่งอย่างเด็ดเดี่ยวจึงเป็นไปในลักษณะ อยากเก็บเธอไว้ทุกคนจึงสานสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ อีกทั้งยังมีความอ่อนไหวและมักตกหลุมรักได้ง่ายกับการเอาอกเอาใจของผู้ชาย บวกกับความกล้าและความมั่นใจของผู้หญิงยุคใหม่ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในสังคมที่ให้หญิงชายเท่าเทียมกัน ผู้ชายทำได้ผู้หญิงก็ทำได้เช่นกัน
4. ข้อดีของการมี กิ๊ก คือ การมีความสุข เพราะความรักทำให้โลกนี้ช่างน่าอยู่และกลายเป็นสีชมพู หวานแหวน ชุ่มชื่นหัวใจ นอกจากนั้นยังเป็นความท้าทาย ได้ลิ้มลองกับการคบคนหลายแบบ หลายรสชาติ ได้ทำอะไรที่แปลกใหม่  ไม่ซ้ำซากจำเจ  แก้เหงา  แก้เซ็ง  แก้เบื่อ  ไม่ต้องอยู่คนเดียว  เปิดโอกาสให้ตนเองได้ศึกษากับคนมากขึ้น ได้เลือกคนที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง เพราะคนเรามีความเห็นแก่ตัวเป็นธรรมดา
5. ปัญหาของ กิ๊ก คือ ถูกมองว่าทำตัวไม่ดี หลายใจ เจ้าชู้ ลดความน่าเชื่อถือของตนเอง โดยเฉพาะคนที่มีแฟนอยู่แล้วต้องทำร้ายจิตใจคนที่เรารัก  บางคนที่มีเพศสัมพันธ์ความรู้สึกก็ต้องมีมากขึ้นเป็นพิเศษ ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิม แต่ไม่สามารถเป็นห่วงหรือหึงหวงได้เต็มความรู้สึก ต้องคอยเก็บกดความรู้สึกตัวเองภายใต้คำว่า กิ๊กทำให้ต้องอึดอัดทรมานใจ อาจมีการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่น ทะเลาะเบาะแว้งหรืออาจถึงขั้นฆ่าตัวตายซึ่งมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ บางคนอาจกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่เป็นอันเรียนหนังสือ เวลาเรียนไม่พอต้องลงทะเบียนเรียนใหม่แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ผู้ปกครอง จึงต้องตัดสินใจขายตัวเพื่อเอาเงินมาลงทะเบียนเรียนใหม่ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งเรื่องนักศึกษาขายตัว
6. จุดจบของ กิ๊กมี 2 แบบ คือ แบบดีกับแบบไม่ดี  แบบดีอาจเป็นแฟนกันหรือหากคบกันไปแล้วรู้สึกว่าไม่ใช่ก็เลิกลากันไป  กลับมาเป็นเพื่อนกันได้  ในแบบไม่ดีนั้นส่วนใหญ่จะจบตรงที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง    มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วเลิกคบกับกิ๊ก หรือกิ๊กอาจทำตัวน่าเบื่อหน่ายจึงสลัดทิ้งไป แต่สาเหตุยอดนิยม คือ มีใหม่แล้วลืมเก่าแต่ถ้าเลิกกับแฟนแล้วอาจกลับมามีกิ๊กอีกก็ได้

ข้อตกลงหรือสัญญาของการเป็น กิ๊ก

1. หากเจอกันต้องทักทายด้วยความยินดี แต่ถ้าอยู่ห่างกัน 100 เมตรให้ยิ้มหวาน ๆ ประมาณ 1 นาที และมีท่าทางประกอบ เช่น บ๊ายบาย
2. ห้ามพูดคุยกับคนอื่นเกินหน้าเกินตา ถ้าจับได้จะโดนทำโทษโดยการดึงหูจนกว่าจะแดง
3. โทรศัพท์คุยกันอย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 วัน แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 40 นาที
4. เวลานอนห้ามคิดถึงใครต้องคิดถึงแต่กิ๊ก
5. ไม่มีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาจนกว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะยินยอม
6. ให้ถือสัญญาไว้จนกว่าบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายจะมีกิ๊กใหม่

กฎ 10 ข้อของการเป็นกิ๊ก

1. ห้ามหึงหวง แต่ห่วงกันได้
2. มีอะไรกันได้ แต่ไม่ใช่ของกันและกัน
3. ไม่มีสิทธิเรียกร้องเกินเหตุ
4. อาจเปลี่ยนสถานะได้ แต่ถ้าไม่ได้ห้ามเศร้า
5. ห้ามใช้กิ๊กร่วมกันกับเพื่อน
6. ถ้ากิ๊กคิดจะไปมีแฟนเป็นตัวเป็นตน โดยไม่ใช่เรา ห้ามฟูมฟาย แต่ต้องพยายามยอมรับและยินดีด้วย แล้วค่อยตกลงกันอีกทีว่าจะเป็นกิ๊กกันต่อไปหรือไม่
7. ไม่จำเป็นต้อง take care กันเกินเหตุ เพราะเป็นแค่กิ๊ก
8. กิ๊กมีได้ไม่จำกัดจำนวน เป็น infinity ไม่จำกัดเพศ วัย และสถานภาพ ถ้าไม่กลัวตายเพราะเอดส์หรือต้องปีนต้นงิ้ว
9. กิ๊กสำคัญรองจากแฟน
10. กิ๊กยังไงก็เป็นกิ๊กต้องเจียมตัว
อย่างไรก็ตาม หากทัศนคติหรือค่านิยมเกี่ยวกับเพศตรงข้ามของวัยรุ่นไทยเปิดกว้างและอิสระเสรีมากกว่านี้  ตามคอนเซ็ปต์  ทุ่มเท ทิ่มแทง ทำแท้ง ทอดทิ้ง อาจเกิดการพลาดพลั้ง  เปลืองเนื้อเปลืองตัวและเกิดในสิ่งที่ไม่ต้องการได้ เช่น การตั้งท้องก่อนวัยอันสมควร การทำแท้ง การทอดทิ้งเด็ก ดังนั้นจึงอยากให้วัยรุ่นไทยได้ รักนวลสงวนตัวจะดีกว่า….

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น